เลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 10202000368

ศัลยกรรมเสริมจมูก ปรับโครงสร้างจมูก ให้ใบหน้าแลดูมีมิติ

ศัลยกรรมเสริมจมูก ปรับทรงจมูกให้สวยรับกับรูปหน้า และแลดูเป็นธรรมชาติที่ The Art Hospital

ไม่ว่าจะมองจากมุมตรงหรือด้านข้าง รูปทรงของจมูกล้วนส่งผลต่อองค์ประกอบบนใบหน้า ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนขาดความมั่นใจ รู้สึกว่าใบหน้าไม่สมส่วน หรืออาจจะยังไม่พอใจกับรูปทรงจมูกของตัวเอง การศัลยกรรมเสริมจมูกจึงเป็นหนึ่งในหัตถการทางการแพทย์ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาจมูกแบน จมูกเบี้ยว หรือจมูกสั้น และผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนของจมูกให้เหมาะสมกับโครงหน้ามากขึ้น 

Key Takeaways :
  • เทคนิคศัลยกรรมเสริมจมูกมีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ เทคนิค Closed, Semi-Open และ Open ซึ่งแต่ละเทคนิคจะเหมาะกับปัญหาและและโครงสร้างจมูกต่างกัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
  • รองปลายจมูกช่วยลดแรงกดจากซิลิโคน เสริมความแข็งแรงให้ปลายจมูก ลดโอกาสทะลุ และช่วยให้ทรงจมูกแลดูเป็นธรรมชาติ
Key Topics
ทำความรู้จักศัลยกรรมเสริมจมูก คืออะไร ขั้นตอนและข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนทำที่ The Art Hospital

ศัลยกรรมเสริมจมูก คืออะไร ?

ศัลยกรรมเสริมจมูก คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกเดิมด้วยการผ่าตัด เพื่อให้ได้รูปทรงจมูกที่เหมาะสมกับใบหน้า โดยการใช้วัสดุสังเคราะห์ทางการแพทย์ที่ผลิตขึ้นมาให้ใช้กับร่างกายโดยเฉพาะ เช่น ซิลิโคนจมูก รวมไปถึงการใช้เนื้อเยื่อจากร่างกาย เช่น กระดูกอ่อนหลังหู กระดูกซี่โครง เพื่อนำมาเสริมและปรับโครงสร้างจมูกตามความเหมาะสมและรูปทรงที่เข้ากับรูปหน้าแต่ละบุคคล

โปรแกรมเสริมจมูกแต่ละเทคนิค Closed Semi Open และ Open เหมาะกับใครบ้าง ที่ The Art Hospital

เทคนิคการศัลยกรรมเสริมจมูก มีอะไรบ้าง ?

ปัจจุบันการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกมีด้วยกัน 3 เทคนิค ได้แก่

1. ศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิค Closed

เป็นวิธีการผ่าตัดที่จะฉีดยาชาบริเวณสันและปลายจมูก รอยแผลผ่าตัดซ่อนไว้ที่ด้านในรูจมูกขวาข้างเดียว โดยซิลิโคนที่ใช้จะเป็นแบบนิ่ม สามารถบิดได้ และสามารถดีไซน์รูปทรงจมูกให้โด่ง แลดูมีมิติ หรือให้รับกับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ แต่จะขึ้นอยู่กับฐานจมูกและความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อแต่ละบุคคลด้วย
  • เหมาะกับ : ผู้ที่จมูกขาดมิติ หรือต้องการเพิ่มความคมชัดของใบหน้า หรือเคสที่ไม่ต้องแก้โครงสร้างปลายจมูกมาก แต่เทคนิคการเสริมจมูกนี้จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกคดเอียง หรือมีพื้นฐานจมูกน้อยและเนื้อน้อย
  • ข้อดี : แผลซ่อนในรูจมูก ทำให้ไม่เห็นรอยแผลจากภายนอก และอาจบวมช้ำน้อยกว่าการศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิค Open
  • ข้อจำกัด : อาจปรับรูปทรงจมูกได้จำกัด และไม่เหมาะกับเคสที่ต้องปรับฐานจมูกหรือแก้ปลายจมูกแบบละเอียด

2. ศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิค Semi-Open

การผ่าตัดจะเปิดแผลในรูจมูก 2 ข้าง ซ้ายและขวา เพื่อบล็อคกันการเบี้ยวเอียง และรอยแผลจะซ่อนไว้ด้านในรูจมูก โดยจะใช้วัสดุรองปลายเป็นเนื้อเยื้อเทียม เพื่อลดและป้องกันปัญหาปลายบาง ปลายใส พร้อมทั้งลดโอกาสการสัมผัสโดยตรงกับซิลิโคนด้วย ซิลิโคนที่ใช้จะเป็นแบบนิ่ม สามารถออกแบบให้ปลายแลดูพุ่งรับกับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละบุคคล แต่จะอยู่กับฐานจมูกและความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน
  • เหมาะกับ : ผู้ที่จมูกขาดมิติ ปลายจมูกเนื้อน้อย ปลายบาง รูจมูกเห็นชัด หรือรูจมูกขนาดต่างกัน และผู้ที่ต้องการทรงจมูกหยดนํ้า แต่เทคนิคนี้จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกคดเอียง และรูจมูกผิดรูปหรือปลายหดรั้ง
  • ข้อดี : สามารถปรับทรงจมูกได้มากขึ้น เหมาะกับเคสที่ต้องการปรับปลายจมูกให้แลดูเนียนสวยขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นแก้โครงสร้างใหญ่ และไม่มีรอยแผลเป็นนอกจมูก
  • ข้อจำกัด : อาจยังมีข้อจำกัดในการปรับฐานโครงสร้างภายใน และไม่เหมาะกับผู้ที่เคยศัลยกรรมเสริมจมูกมาหลายครั้งแล้ว

3. ศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิค Open

เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดแผลบริเวณปลายจมูกด้านล่างและข้างในรูจมูกทั้งสองข้าง แล้วนำวัสดุเสริมจมูกใส่เข้าไปเพื่อปรับแต่งทรงจมูกให้เหมาะสมกับใบหน้า รวมทั้งการใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือซี่โครงตัวเองในการรองปลายจมูก แต่สำหรับใครที่มีข้อจำกัดในการใช้ซี่โครงตัวเอง จะเลือกใช้ซี่โครงเทียม หรือกระดูกอ่อนเทียม (PCL mesh) เพื่อเสริมความแข็งแรงของกระดูกอ่อนหลังหูแทนได้
  • เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาจมูกทุกรูปแบบ หรือผู้ที่มีปัญหาจากโครงสร้างจมูกเดิม เช่น จมูกคดเบี้ยว จมูกมีฮัมพ์ และจมูกสั้น
  • ข้อดี : ปรับโครงสร้างจมูกได้ละเอียดขึ้น และใช้ร่วมกับเทคนิคการเสริมปลายด้วยเนื้อเยื่อ หรือเนื้อเยื่อเทียมได้ดี
  • ข้อจำกัด : ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าวิธีอื่น และบวมช้ำมากกว่า รวมทั้งอาจมีแผลเล็ก ๆ ที่ใต้ฐานจมูก และส่วนใหญ่จะแลดูจางลงในภายหลัง
สอบถามเพิ่มเติม
The Art เราพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่าน

ใครเหมาะสำหรับการศัลยกรรมเสริมจมูก

การตัดสินใจศัลยกรรมเสริมจมูกไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการปรับรูปทรงจมูกให้เหมาะกับโครงสร้างใบหน้า และความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการศัลยกรรมเสริมจมูก มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาจมูกแบน, จมูกสั้น, จมูกกว้าง, จมูกเบี้ยว, จมูกไม่สมส่วน, หรือผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้รับกับใบหน้า
  • ผู้ที่เคยศัลยกรรมเสริมจมูกมาแล้วต้องการแก้ไข เช่น จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอย ทะลุ หรือไม่พอใจกับทรงเดิม
  • ผู้ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคเลือดออกง่าย
  • ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร

ทั้งนี้ ใครที่เหมาะสำหรับการทำศัลยกรรมเสริมจมูก อาจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคสด้วย ก่อนเข้ารับบริการศัลยกรรมเสริมจมูกจึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินและวางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

วัสดุที่ใช้ในการศัลยกรรมเสริมจมูก มีอะไรบ้าง ? รู้ก่อนเลือก เพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์

การศัลยกรรมเสริมจมูกไม่ได้มีแค่เรื่องของรูปทรงจมูกหรือเทคนิคเท่านั้น แต่วัสดุที่ใช้เสริมจมูกก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อภาพรวมหลังทำในระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันก็มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน มาดูกันว่า วัสดุเสริมจมูกที่นิยมใช้มีอะไรบ้าง

1. ซิลิโคน (Silicone)

เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการศัลยกรรมเสริมจมูกมาอย่างยาวนาน และยังแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่คงรูปได้ดี ไม่หดตัวง่าย เนื้อซิลิโคนจะนิ่ม เนียน มีความยืดหยุ่น สามารถปรับให้เข้ากับจมูกได้ทุกรูปแบบ โดยซิลิโคนที่นิยมใช้กันมี 2 แบบ ได้แก่
  • ซิลิโคนจมูกลักษณะเนื้อซิลิโคนมีสีขาว เนียนละเอียด ระดับความนิ่มปานกลาง ช่วยให้รูปทรงแลดูเป็นธรรมชาติ
  • ซิลิโคนเป็นเนื้อซิลิโคนที่มีสีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดง จุดเด่นมีความยืดหยุ่นสูง โดยเฉพาะบริเวณโคนจมูกและปลายจมูกจะมีความนิ่ม ทำให้แนบเนื้อได้ดีและช่วยให้ทรงจมูกแลดูเป็นธรรมชาติ

2. เนื้อเยื่อเทียม หรือ ADM (Acellular Dermal Matrix)

เป็นวัสดุที่ผลิตจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อและกำจัดเซลล์ออก เพื่อคงไว้แต่โครงสร้างผิวหนัง มีลักษณะเนื้อสัมผัสคล้ายฟองน้ำนิ่ม ๆ มีรูพรุนและยืดหยุ่น เหมาะกับการเสริมในตำแหน่งที่ต้องการความนุ่ม เช่น ปลายจมูก เพราะเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งร่างกายจะสร้างหลอดเลือดและเนื้อเยื่อใหม่เข้าไปประสาน ทำให้สมานกลายเป็นเนื้อเยื่อส่วนหนึ่งของตัวเราเอง

3. กอร์เท็กซ์ (Gore-Tex)

ผลิตมาจาก Polytetrafluoroethylene หรือ PTFE มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ เนื้อสัมผัสนุ่ม และมีรูพรุน ทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายแทรกเข้าไปได้ จึงยึดเกาะกับเนื้อเยื่อร่างกายได้ดี ลดโอกาสการเคลื่อนตัว และช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืด แต่อาจมีข้อจำกัดคือ การยุบตัวประมาณ 5-10% และหากต้องการแก้ไขในอนาคต อาจมีความซับซ้อนมากกว่าวัสดุอื่น
วัสดุที่ใช้สำหรับรองปลายจมูกในการศัลยกรรมเสริมจมูก เช่น เนื้อเยื่อเทียม เนื้อเยื่อหลังหู หรือกระดูกอ่อนซี่โครง ที่ The Art Hospital

ป้องกันปลายทะลุ แก้ปัญหาปลายจมูกบาง ด้วยเทคนิครองปลายจมูก

การรองปลายจมูก คือ การใช้เนื้อเยื่อต่าง ๆ มารองคั่นกลางระหว่างซิลิโคนกับเนื้อจมูก เพื่อป้องกันซิลิโคนสัมผัสกับผิวปลายจมูกโดยตรง และช่วยลดความเสี่ยงปลายจมูกบางหรือทะลุในระยะยาว โดยเฉพาะในคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ซึ่งจะช่วยเพื่มความหนาและความแข็งแรงของเนื้อปลายจมูก ส่งผลให้จมูกแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

วัสดุที่นิยมนํามารองปลายจมูก มีอะไรบ้าง

สำหรับเทคนิคการรองปลายที่ The Art มีวัสดุที่นิยมใช้ด้วยกัน 4 แบบ เพื่อปรับให้เหมาะกับโครงสร้างจมูกและความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนี้

  1. เนื้อเยื่อเทียม

    (ADM) มีลักษณะเนื้อนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี ใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อจริง เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการมีแผลบริเวณอื่นของร่างกาย

    ข้อดี : มีปริมาณมากเอามาใช้ได้ตามที่ต้องการ และสามารถปรับแต่งให้พอดีกับปลายจมูกได้

    ข้อจำกัด : อาจยุบตัวได้ง่าย ทนทางต่อแรงดันได้น้อย และอาจมีโอกาสเกิดการแพ้มากกว่าเนื้อเยื่อตัวเอง

  2. กระดูกอ่อนหลังหู

    เป็นกระดูกอ่อนที่อยู่บริเวณส่วนแอ่งกึ่งกลางของใบหู (Concha) ซึ่งตัวกระดูกอ่อนนี้จะมีความแข็งแรง แต่ไม่ทำให้โครงสร้างใบหูผิดรูปแต่อย่างใด เหมาะกับผู้ที่ต้องการทรงจมูกสไตล์สายฝอ และเพิ่มความยาวปลายจมูกชัด

    ข้อดี : เป็นเนื้อเยื่อของร่างกายตนเอง ยุบตัวน้อย อยู่ได้ตลอดชีวิต

    ข้อจำกัด : ปริมาณน้อย อาจเห็นเป็นขอบในอนาคต และมีแผลซ่อนหลังใบหู รวมทั้งอาจรู้สึกเสียวหรือเจ็บหลังใบหูเล็กน้อยในช่วง 1-3 เดือนแรก แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น

  3. เนื้อเยื่อก้นกบ

    เป็นเนื้อเยื่อในบริเวณที่มีชั้นหนาของตัวไขมันและยืดหยุ่นดีที่สุดในร่างกาย เหมาะกับผู้ที่มีปลายจมูกบาง หรือผู้ที่ต้องการจมูกละมุน ปลายเนื้ออิ่ม และทรงเกาหลี

    ข้อดี : ใช้เนื้อเยื่อจริงจากร่างกาย ผิวสัมผัสที่นุ่ม รองปลายได้ดี ช่วยให้ปลายแลดูเนียนและหนาขึ้น

    ข้อจำกัด : อาจมีการยุบตัวในระดับปานกลาง มีแผลบริเวรก้นกบยาว 1-2 cm และอาจมีอาการเจ็บหรือเสียวในช่วง 1-7 วันแรก แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลําดับภายใน 1-3 เดือน

  4. กระดูกอ่อนซี่โครง

    เหมาะสำหรับเคสที่มีกระดูกอ่อนหลังใบหูไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ สามารถใช้ส่วนของกระดูกอ่อนซี่โครงในการรองปลายจมูกและสร้างโครงจมูกใหม่แทนซิลิโคนได้

    ข้อดี : สามารถใช้เสริมได้ทั้งปลายและสันจมูก เป็นเนื้อเยื่อตัวเอง มีความแข็งแรง อยู่ได้ตลอด

    ข้อจำกัด : เนื่องจากเป็นการผ่าตัด 2 ตำแหน่ง ทั้งจมูกและหน้าอก อาจต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าเทคนิคอื่น และอาจมีมีความยืดหยุ่นน้อย

ศัลยกรรมเสริมจมูก ราคาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?

ราคาศัลยกรรมเสริมจมูกอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งโดยทั่วไปอาจมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับราคาศัลยกรรมเสริมจมูก มีดังนี้

  1. เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด เช่น เทคนิคแบบ Closed อาจมีราคาย่อมเยากว่าแบบ Semi-Open และ Open ที่อาจมีราคาสูงขึ้นตามความซับซ้อน
  2. วัสดุที่ใช้ในการศัลยกรรมเสริมจมูก การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอาจมีราคาย่อมเยากว่าส่วนกระดูกอ่อน (หลังหู/ซี่โครง) เนื่องจากอาจมีการผ่าตัดเพิ่มเติม
  3. ความยาก-ง่ายของเคส สำหรับเคสเสริมใหม่อาจมีราคาต่ำกว่าเคสที่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมแก้จมูก หรือมีปัญหาพังผืด ซิลิโคนทะลุ หรือปลายบางมาก จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามความซับซ้อน

ศัลยกรรมเสริมจมูกที่ไหนดี ทำไมต้องเลือก The Art

การศัลยกรรมเสริมจมูกที่ The Art แพทย์จะทำการออกแบบทรงจมูกเฉพาะบุคคล เคสต่อเคส โดยแพทย์จะทำการวิเคราะห์โครงหน้าและโครงจมูกอย่างละเอียดก่อนเสริมจริง พร้อมด้วยเทคนิค Triple Lock ล็อกซิลิโคน 3 ชั้น ช่วยให้ซิลิโคนจมูกยึดแน่นกันสันจมูกไม่ทำให้เกิดอาการซิลิโคนลอย หรือเบี้ยวเอียง และแลดูเป็นธรรมชาติ
โดยเทคนิค Triple Lock ที่ดิอาทมีจุดเด่นด้วยการล็อค 3 จุด คือ

  • ล็อคขั้นแรก วางซิลิโคนในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูก
  • ล็อคขั้นสอง ล็อคทรงจมูกทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
  • ล็อคขั้นสาม เย็บล็อคและป้องกันปลายจมูกทะลุ ด้วยการวิเคราะห์และประเมินเนื้อจมูกของคน
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมเสริมจมูก เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามที่ The Art Hospital

การเตรียมตัวก่อนทําศัลยกรรมเสริมจมูก

การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก ดังนี้

  • ควรแจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และยาที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบก่อนผ่าตัด
  • งดทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดหรือวิตามินอาหารเสริม 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดของแสลงจำพวกของหมักดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • แนะนำให้ทานอาหารเบา ๆ ก่อนเวลาผ่าตัด ประมาณ 4-6 ชั่วโมง โดยห้ามรับประทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่เสี่ยงต่อการท้องเสียและท้องผูก
  • งดแต่งหน้า ให้ล้างหน้าและทำความสะอาดร่างกายให้พร้อมในวันผ่าตัด
  • แนะนำให้วางแผนการเดินทางในการไป-กลับ ซึ่งไม่ควรขับรถมาเองในวันผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมเสริมจมูก เพื่อช่วยให้แผลหายไวและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่ The Art Hospital

การดูแลตัวเองหลังทําศัลยกรรมเสริมจมูกซิลิโคน

การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาแลดูเป็นธรรมชาติ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อน หรือปัญหาอื่น ๆ ตามมา โดยมีคำแนะนำดังนี้
  • ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัดบริเวณหน้าผากและใต้ตา ห้ามประคบโดนบริเวณสันจมูก เพราะอาจทําให้เกิดการเอียงได้
  • ห้ามแคะ แกะ หรือเกา บริเวณที่ทำการผ่าตัดมา
  • ทําความสะอาดแผลเช้าและเย็น โดยสามารถทำความสะอาดด้วยการใช้เบตาดีน และรับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาลดบวมให้ครบตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • สามารถแกะเฝือกที่จมูกได้หลังทําไปแล้ว 5 วัน และตัดไหมหลังทํา 14 วัน (บางกรณีแล้วแต่แพทย์ประเมิน)
  • สามารถใช้เจลลดรอยช้ำทาบริเวณที่บวมช้ำได้ โดยแนะนําให้ทาทั้งเช้าและเย็น
  • งดออกกําลังกาย หรือทํากิจกรรมหนัก ๆ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนบริเวณใบหน้า
  • งดใส่แว่นตา เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณสันจมูกได้รับการกระทบกระเทือน
  • ช่วงแรก ๆ ห้ามนอนตะแคง หรือนอนคว่ำหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
  • งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 เดือน
  • มาพบแพทย์ทุกครั้งตามการนัดหมาย เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติ และติดตามผลหลังทํา

ศัลยกรรมเสริมจมูก ปรับเปลี่ยนทรงจมูกให้แลดูละมุนรับกับใบหน้า

ศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นหัตถการที่ช่วยปรับโครงสร้างจมูกให้รับกับใบหน้าของแต่ละบุคคล พร้อมช่วยเสริมความมั่นใจ โดยมีหลายเทคนิคให้เลือกตามลักษณะโครงหน้าและปัญหาของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน พร้อมแพทย์เฉพาะทาง และการปฏิบัติตัวก่อน-หลังผ่าตัดอย่างถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ทรงจมูกออกมาแลดูเป็นธรรมชาติ พร้อมการดูแลอย่างปลอดภัย ทำให้ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนได้ในระยะยาว
สำหรับท่านใดที่สนใจศัลยกรรมเสริมจมูก ปรับรูปทรงจมูก สามารถปรึกษาแพทย์ที่ดิอาท หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางการติดต่อได้ดังนี้ :

FAQ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมจมูก

การศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสามารถอยู่ได้ตลอดไป โดยไม่ต้องทำการเปลี่ยนหรือแก้ไข หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน หรือปัญหาที่ต้องเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ เช่น การอักเสบติดเชื้อ ซิลิโคนเคลื่อน ซิลิโคนจมูกทะลุ เป็นต้น

ในระหว่างการผ่าตัดจะมีการให้ยาชาหรือยาสลบ ทำให้ผู้รับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังจากยาชาหมดฤทธิ์อาจมีอาการตึงหรือระบม และอาการเจ็บปวดแผลหลังผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาปวด และควรดูแลตามคำแนะนำของแพทย์

การพักฟื้นหลังศัลยกรรมเสริมจมูกอาจใช้ระยะเวลาแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ซึ่งโดยทั่วไปอาจเกิดอาการบวมช้ำประมาณ 5-7 วัน และจะเริ่มยุบเข้าที่ประมาณ 1-3 เดือน จากนั้นจมูกก็จะรัดแกนและเห็นรูปทรงจมูกตามที่ต้องการในช่วงระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยสามารถทำการศัลยกรรมเสริมจมูกได้ โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกเทคนิคและวัสดุที่เหมาะสม เช่น การใช้เนื้อเยื่อเสริมร่วมกับซิลิโคน หรือเทคนิคที่ช่วยลดแรงกดบริเวณปลายจมูก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการทะลุในอนาคต

หลังการศัลยกรรมเสริมจมูกสามารถนอนตะแคงได้ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยช่วงแรก ๆ หลังผ่าตัด แนะนำให้นอนหงาย หรืออาจใช้หมอนหนุนเพื่อให้ศีรษะสูงขึ้น เพื่อช่วยลดอาการบวม และช่วยป้องกันไม่ให้จมูกเบี้ยวเอียง

แชร์บทความนี้
Facebook
Threads
X
อ้างอิง
สอบถามเพิ่มเติม
The Art เราพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่าน

News & Events

ข่าวสารล่าสุดจากดิอาท

Imperial Room
6th Floor|

Premier Room
6th Floor|

Deluxe Room
5th Floor|

Essential Room
3rd Floor|

Recovery Room
3rd Floor|

เว็บไซต์รวมบริการจากทั้ง โรงพยาบาลและคลินิก

เว็บไซต์รวมภาพรีวิวจาก ผู้ใช้บริการจริงที่ดิอาท