เลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 10202000368

ศัลยกรรมเสริมคาง ปรับรูปคางให้ได้สัดส่วน เสริมความสมดุลให้กับใบหน้า

ศัลยกรรมเสริมคาง เพื่อปรับสมดุลรูปหน้าให้แลดูมีมิติและเป็นธรรมชาติที่ The Art Hospital

การศัลยกรรมเสริมคาง เป็นหนึ่งในหัตถการทางเลือกที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ที่ต้องการปรับรูปคางให้ดูสมส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด หรือแนวคางไม่รับกับโครงหน้าเดิม การศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคางนี้จะสามารถช่วยปรับองศาของคางให้รับกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมแลดูมีมิติและได้สัดส่วนตามความเหมาะสมของลักษณะใบหน้าแต่ละบุคคล

Key Takeaways :
  • การศัลยกรรมเสริมคางช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุล เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย หรือคางไม่สมส่วน เพื่อให้ใบหน้าแลดูเรียวยาวและแลดูมีมิติมากขึ้น
  • ลักษณะของซิลิโคนมีหลายขนาดและทรง เช่น ขาสั้น ขายาว มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งได้ เพื่อให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละบุคคล
  • เทคนิคการศัลยกรรมเสริมคาง แบ่งออกได้ 2 เทคนิคเด่น ๆ ได้แก่ เทคนิคแผลใน และเทคนิคแผลนอก ซึ่งที่ The Art ใช้เทคนิคแผลใน เนื่องจากซ่อนแผลในช่องปาก ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็น
Key Topics

ศัลยกรรมเสริมคาง ด้วย “ซิลิโคน” คืออะไร ?

การศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคน คือ กระบวนการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปทรงของคางให้ดูสมส่วนและเข้ากับโครงหน้ามากขึ้น ด้วยวัสดุที่เรียกว่า “ซิลิโคน (Silicone Implant)” ซึ่งเป็นวัสดุเสริมทางการแพทย์เพื่อเพิ่มความยาวหรือความโค้งมนของคาง ตามความต้องการหรือปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางเบี้ยว หรือคางที่ดูไม่สมส่วน เมื่อศัลยกรรมเสริมคางแล้วจะช่วยให้ใบหน้าแลดูเรียวยาว ดูละมุน และแลดูมีมิติมากขึ้น

จุดเด่นของการศัลยกรรมเสริมคาง ที่ The Art

  • เทคนิค Interlocking ซิลิโคนถูกเหลาตกแต่งเคสต่อเคสและวางให้พอดีกับกระดูกคาง คล้ายการต่อจิ๊กซอว์ จากนั้นล็อกใต้เยื่อหุ้มกระดูก ป้องกันการเคลื่อนที่
  • เทคนิคย้ายกล้ามเนื้อคาง เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะคางสั้นแต่ยื่น เป็นการแก้ไขกล้ามเนื้อคางที่ยื่นมาข้างหน้าให้กดลงด้านล่าง ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหา ทรงคางยื่น คางแม่มด
  • การออกแบบเฉพาะบุคคล โดยการเหลาซิลิโคนแต่ละชิ้นจะถูกออกแบบและวิเคราะห์ใบหน้าแบบเคสต่อเคส เพื่อให้รูปทรงคางเหมาะสมและเข้ากับโครงหน้าของผู้รับบริการแต่ละบุคคล
  • เทคนิคการศัลยกรรมเสริมคางแบบไม่ใช้สกรูหรือไม่ต้องยึดด้วยน็อต ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการระคายเคือง การอักเสบ การเกิดพังผืด และการกดทับเส้นประสาท
  • Silicone ที่ The Art เป็นซิลิโคนจดสิทธิบัตรเฉพาะที่ออกแบบให้นิ่ม ยืดหยุ่นสูง และแนบสนิทกับกรอบหน้า ช่วยให้แนวรอยต่อกรามดูเรียบเนียน พร้อมรูเล็กๆ บนซิลิโคนเพื่อให้เนื้อเยื่อยึดเกาะแน่น ลดความเสี่ยงของการเคลื่อนที่ เบี้ยว เอียง หรือผิดรูป
  • The Art บริการศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลใน เพื่อลดโอกาสการเกิดแผลเป็นบนใบหน้า และช่วยให้ทำความสะอาดหรือดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดได้ง่าย

ศัลยกรรมเสริมคาง ที่ดิอาท เทคนิค Interlocking คืออะไร ?

ศัลยกรรมเสริมคางเทคนิค Interlocking คือ เทคนิคในการศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคน โดยการเหลาตกแต่งซิลิโคนให้มีรูปร่างที่พอดีกับกระดูกคางของแต่ละบุคคล แล้ววางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก (Periosteum) ทำให้เข้ากันเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ส่งผลให้ซิลิโคนวางถูกชั้นและล็อกแนบแน่นกับกระดูกคางของแต่ละบุคคลด้วย เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่หรือลดโอกาสที่ซิลิโคนจะเบี้ยวในอนาคตได้ดี เทคนิคนี้จึงเป็นจุดเด่นของดิอาท และยังช่วยให้ผลลัพธ์หลังการศัลยกรรมเสริมคางเรียบเนียนแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ศัลยกรรมเสริมคางเทคนิค Interlocking ช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางถอย คางตัด หรือคางสองชั้นได้ที่ The Art Hospital

ศัลยกรรมเสริมคาง เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น
    ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน หรือใบหน้าส่วนล่างมีลักษณะสั้นกว่าส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า การศัลยกรรมเสริมคางจึงช่วยทำให้โครงหน้าแลดูยาวและแลดูมีมิติขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาคางตัด
    ส่งผลทำให้ใบหน้าดูสั้น ใบหน้าดูกลม การศัลยกรรมทำคางก็สามารถช่วยปรับรูปทรงคางให้แลดูเรียวมนรับกับใบหน้าได้
  • ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม
    หรือมีลักษณะบริเวณคางมีรอยบุ๋มตรงกลางที่เห็นได้ชัด ซึ่งอาจส่งผลทำให้ขาดความมั่นใจ การศัลยกรรมปรับรูปคางจึงช่วยให้คางมีลักษณะที่เรียบเนียนและโค้งมนขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาคางถอย
    ทำให้โครงหน้าดูไม่สมดุล การศัลยกรรมเสริมคางจะช่วยดันคางให้ยื่นออกมาแลดูสมส่วนขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้น
    การทำศัลยกรรมคางนี้จะช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้คาง หรือบริเวณที่มีปัญหาคางสองชั้น ทำให้ใบหน้าแลดูเรียวกระชับขึ้นได้
ศัลยกรรมเสริมคางแผลในและแผลนอก แตกต่างกันอย่างไร และข้อดีข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ที่ The Art Hospital

ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคาง ปรับรูปคาง มีกี่แบบ ?

สำหรับการศัลยกรรมเสริมคาง จะมีรูปแบบการผ่าตัดเปิดแผลด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ ศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลใน และศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลนอก โดยแต่ละแบบจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลนอก

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลนอก จะเป็นการเปิดแผลบริเวณใต้คาง ซึ่งจะเป็นการเปิดแผลจากด้านนอกก่อนจะนำซิลิโคนใส่เข้าไปแล้วเย็บปิดแผล และอาจจะทำให้มีแผลเป็นเกิดขึ้นได้
ข้อดีของการศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลนอก
  • ดูแลหลังผ่าตัดได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นการเปิดแผลจากด้านนอก
  • สามารถทานอาหารได้สะดวกกว่า
  • ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากเศษอาหารที่รับประทาน
ข้อเสียของการศัลยกรรมเสริมคางแผลนอก
  • อาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นบริเวณใต้คาง โดยลักษณะของแผลอาจเป็นแผลนูน แผลคีลอยด์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
  • ห้ามแผลโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหม
  • หากดูแลแผลไม่ดีอาจเสี่ยงติดเชื้อได้

2.ศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลใน

ในส่วนของการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคางเทคนิคแผลใน จะทำการผ่าตัดเปิดแผลในช่องปากบริเวณซอกเหงือกที่ติดกับริมฝีปากล่าง แล้วแยกเยื่อหุ้มกระดูกคางตรงขอบล่าง จากนั้นจึงค่อยนำซิลิโคนใส่เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการและเย็บปิดแผล ซึ่งเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมแผลในนี้จะเป็นการซ่อนแผลไว้ด้านในปาก ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องแผลด้านนอก
ข้อดีของการศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลใน
  • แผลจะถูกซ่อนไว้ด้านในปาก ทำให้แทบไม่เห็นรอยแผลของการผ่าตัด
  • ช่วยให้การทำความสะอาดใบหน้าได้ง่ายกว่า
  • ระยะเวลาของการสมานแผลไวกว่าแผลด้านนอก
  • สามารถวางตำแหน่งของซิลิโคนได้แม่นยำมากขึ้น
ข้อเสียของการศัลยกรรมเสริมคางแผลใน
  • ต้องระวังในเรื่องของการรับประทานอาหารในช่วง 48 ชม. แรกหลังทำการผ่าตัด
  • ควรระวังเรื่องของความสะอาด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงแผลติดเชื้อ
ทั้งนี้ การทำศัลยกรรมเสริมคางที่ The Art เราใช้เทคนิคศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคางแผลในเท่านั้น แต่การศัลยกรรมเสริมคางแผลนอกนั้นก็สามารถทําได้ ซึ่งต้องทำการปรึกษากับแพทย์เป็นเคสต่อเคสตามความเหมาะสม
สอบถามเพิ่มเติม
The Art เราพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่าน

ซิลิโคนศัลยกรรมเสริมคาง มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับใคร ?

ลักษณะของซิลิโคนศัลยกรรมเสริมคางที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ซิลิโคนขาสั้น และซิลิโคนขายาว โดยซิลิโคนแต่ละแบบจะเหมาะกับปัญหาคางและโครงหน้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ซิลิโคนขาสั้น

ซิลิโคนขาสั้นมีลักษณะขนาดเล็ก ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมบริเวณปลายคาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางอยู่แล้ว หรือผู้ที่ไม่มีปัญหาคางไม่เยอะ แต่อยากให้ปลายคางดูยาวขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อความสมดุลของใบหน้า แต่จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้นมาก คางตัด หรือเนื้อคางน้อย

2.ซิลิโคนขายาว

ซิลิโคนขายาวจะมีลักษณะของขาที่โค้งยาวครอบกระดูกปลายคาง ทำให้แนบพอดีกับกรอบหน้า ช่วยลดรอยต่อระหว่างแก้มกับคาง และซิลิโคนสามารถเหลาให้เข้ากับใบหน้าแต่ละบุคคลได้ รวมทั้งช่วยปรับสัดส่วนโดยรวมให้แลดูสมดุลขึ้น ทั้งความยาวคาง กรอบหน้า และแนวกราม เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย คางตัด หรือผู้ที่อยากให้ใบหน้าแลดูเรียวชัดขึ้น แต่อาจมีอาการบวมช้ำมากกว่าหากวางไม่พอดี และอาจใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการศัลยกรรมเสริมคางซิลิโคนขาสั้น
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเสริมคาง ข้อควรรู้และคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยที่ The Art Hospital

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง

การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการแทรกซ้อนและช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้
  • แจ้งข้อมูลส่วนตัว เกี่ยวกับประวัติโรคส่วนตัว ยารักษาโรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยาให้แพทย์ทราบก่อนทำการผ่าตัด
  • หยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน, Plavix และวิตามิน หรืออาหารเสริมต่างๆ อย่างน้อย 7-14 วัน ก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง
  • ถอดเล็บเจล ล้างเล็บ รวมทั้งถอดคอนแทคเลนส์ ฟันปลอม หรือรีเทนเนอร์ และไม่ควรสวมเครื่องประดับมาในวันผ่าตัด
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเสริมคาง เพื่อช่วยให้แผลหายไวและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่ The Art Hospital

วิธีการดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมเสริมคาง

อีกหนึ่งความสำคัญคือการดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมเสริมคาง เพื่อช่วยลดอาการบวม ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาแลดูสวยน่าพึงพอใจ โดยมีคำแนะนำที่ควรปฏิบัติตาม ได้แก่

  • รับประทานอาหารอ่อนเหลว โดยเลือกรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่าย ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เพื่อลดแรงกดของกระดูกคาง
  • แปรงฟันเบา ๆ และบ้วนปากหลังทานอาหารทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารร้อน และอาหารเผ็ดในช่วง 3 วันแรก
  • ช่วง 3 วันแรก ให้ประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ และหลังจากวันที่ 7 เป็นต้นไป เปลี่ยนเป็นประคบอุ่น
  • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวแรง ๆ หรือการทำกิจกรรมหนัก ๆ ที่เสี่ยงทำให้คางได้รับบาดเจ็บ
  • ทานยาให้ครบตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
  • อาจจะมีอาการปวดบวม เลือดซึมในช่องปากในช่วง 2 วันแรก ให้ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ

ศัลยกรรมเสริมคางแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

ปัญหาคางเป็นก้อนหลังศัลยกรรมเสริมคางเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้รับบริการบางรายที่พบปัญหานี้ โดยการศัลยกรรมเสริมคางแล้วเป็นก้อน มีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้

  • ปัญหาซิลิโคนเคลื่อนที่หรือบิดเบี้ยว
    การวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง ไม่ตรงแนวกระดูก หรือเกิดจากการกระแทกหลังผ่าตัด อาจทำให้คางดูเอียงหรือเป็นก้อนผิดรูป
  • ปัญหาซิลิโคนใหญ่เกินไป หรือซิลิโคนขนาดไม่พอดี
    การใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไป หรือไม่มีการเหลาปรับให้เข้ากับโครงหน้า ส่งผลให้คางดูไม่เรียบเนียน หรือเกิดรอยต่อชัดเจน
  • ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม
    หรือมีลักษณะบริเวณคางมีรอยบุ๋มตรงกลางที่เห็นได้ชัด ซึ่งอาจส่งผลทำให้ขาดความมั่นใจ การศัลยกรรมปรับรูปคางจึงช่วยให้คางมีลักษณะที่เรียบเนียนและโค้งมนขึ้น
  • ปัญหาเกิดพังผืดรัดตัว
    ร่างกายอาจสร้างพังผืดรัดรอบซิลิโคน ทำให้เกิดความตึง แข็ง และดันคางจนดูเป็นก้อน
  • ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ซ้ำบ่อยเกินไป
    การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ซ้ำในจุดเดิมบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดการสะสมของโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ผิว ส่งผลให้บริเวณใต้คางหรือกรอบหน้าดูบวม หรือดูเป็นก้อนห้อยย้อย จนแลดูไม่เป็นธรรมชาติ

วิธีการแก้ไขการศัลยกรรมเสริมคางแล้วเป็นก้อน

หากพบปัญหาหลังศัลยกรรมเสริมคางแล้วเป็นก้อนแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินปัญหาและหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม เช่น

  • การเสริมซิลิโคนเข้าไปใหม่ โดยอาจต้องผ่าตัดนำซิลิโคนเก่าที่มีปัญหา หรือวางผิดตำแหน่งออก แล้วแทนที่ด้วยซิลิโคนใหม่ที่มีการเหลาให้เหมาะสมกับโครงหน้าเข้าไปวางในตำแหน่งที่ถูกต้อง
  • การทำโปรแกรมฉีดสลายฟิลเลอร์หรือขูดสารฟิลเลอร์ที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังออก ก่อนทำการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคนเข้าไปแทน
  • ดูแลหลังผ่าตัดอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยลดโอกาสการเกิดซิลิโคนเบี้ยวเอียง หรือเป็นก้อน และช่วยลดรอยแผลเป็นและ ทำให้ใช้เวลาพักฟื้นสั้น

หลังศัลยกรรมเสริมคาง สามารถทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

สามารถทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คางหลังศัลยกรรมเสริมคางได้ หากต้องการเติมเต็มร่องข้างคางหรือแนวกรอบหน้าให้เนียนขึ้น แต่ต้องอยู่ภายใต้การประเมินและการดูแลโดยแพทย์ และควรเว้นระยะหลังการศัลยกรรมเสริมคางอย่างเหมาะสม โดยควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว แผลหายดี และซิลิโคนเข้าที่แล้ว

ศัลยกรรมเสริมคางที่ไหนดี ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง ?

ควรศัลยกรรมเสริมคางที่ไหนดี สามารถพิจารณาจากปัจจัยสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้

1. แพทย์

แนะนำให้เลือกสถานพยาบาลที่จะเข้ารับบริการมีทีมแพทย์ที่มีเฉพาะทางในการศัลยกรรมปรับรูปคาง และควรตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือผลงานของแพทย์

2. การให้คำปรึกษาก่อนทำศัลยกรรมเสริมคาง

ก่อนทำการศัลยกรรมทำคางควรปรึกษาเบื้องต้นกับแพทย์ เพื่อพูดคุยถึงเป้าหมาย ความเหมาะสมของรูปหน้า และอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ เพื่อให้มีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจ

3. สภาพแวดล้อมที่สะอาด

สถานที่ทำหัตถการควรมีสภาพแวดล้อมที่สะอาด และเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกขั้นตอน

4. มีภาพรีวิวที่น่าเชื่อถือ

การดูรีวิวผลงานก่อน-หลังของเคสจริงจากแต่ละสถานพยาบาลที่สนใจถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกทำศัลยกรรมเสริมคาง จะช่วยให้เข้าใจแนวทางการทำงานของแพทย์ และสามารถประเมินได้ว่ารูปแบบที่คุณต้องการใกล้เคียงกับผลงานนั้นหรือไม่

5. ราคาที่เหมาะสม

แม้ราคาจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจศัลยกรรมเสริมคาง แต่ไม่ควรเลือกจากราคาที่ถูกสุดเพียงอย่างเดียว ซึ่งควรพิจารณาทั้งวัสดุที่ใช้ เทคนิคที่ทำ และการดูแลหลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางจากหลาย ๆ สถานพยาบาลด้วยเช่นกัน

ทำไมต้องเลือกทำศัลยกรรมคางที่ The Art Hospital ดีอย่างไร ?

หากคุณกำลังมองหาสถานพยาบาลสำหรับการศัลยกรรมเสริมคางที่ให้ผลแลดูเป็นธรรมชาติ The Art คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยทีมแพทย์ที่พร้อมใส่ใจทุกรายละเอียด วิเคราะห์ใบหน้าแบบเฉพาะบุคคล และการใช้เทคนิค Interlocking ผสานกับซิลิโคนสิทธิบัตรของดิอาทที่จะช่วยล็อกซิลิโคนให้อยู่กับที่ ป้องกันเรื่องซิลิโคนเบี้ยว หรือผิดรูป และการเสริมด้วยเทคนิคแผลใน เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดแผลเป็น และดูแลหลังการผ่าตัดได้ง่าย รวมทั้งยังให้ผลที่น่าพึงพอใจอีกด้วย

ศัลยกรรมเสริมคาง ทางเลือกหนึ่งในการปรับรูปหน้าให้สมส่วน

อย่างไรก็ตาม หลังการศัลยกรรมเสริมคาง การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยลดอาการบวม ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้แผลสมานดี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารอ่อน หลีกเลี่ยงอาหารร้อนและเผ็ด การประคบเย็นในช่วงแรก และการดูแลความสะอาดในช่องปาก ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหากท่านมีความสนใจหรือกำลังมองหาสถานพยาบาลสำหรับการทำศัลยกรรมเสริมคาง ที่ออกแบบรูปหน้ารายบุคคล และใช้เทคนิค Interlocking ที่จะช่วยล็อกซิลิโคนให้แนบแน่นไปกับรูปทรงคาง สามารถเข้ามาปรึกษาที่ The Art เราพร้อมดูแลคุณแบบเคสต่อเคสเพื่อให้ได้รูปทรงคางที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

FAQ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมคาง

การศัลยกรรมเสริมคางเป็นการผ่าตัดที่มีการฉีดยาชา จึงอาจเจ็บเฉพาะตอนฉีดยาชาเท่านั้น และเมื่อยาชาออกฤทธิ์ทำให้ระหว่างผ่าตัดอาจไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว อาจมีอาการตึง ๆ ที่แผลผ่าตัด หรือรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย สามารถกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการได้

หลังการผ่าตัดจะมีช่วงแผลบวมช้ำอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก และคางจะเริ่มเข้าที่ 1-3 เดือน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลด้วย

การศัลยกรรมเสริมคางเทคนิคแผลในจะไม่มีแผลบริเวณด้านนอก ส่วนการเสริมคางเทคนิคแผลนอกอาจมีแผลเป็นเล็ก ๆ บริเวณใต้คาง ทั้งนี้ แผลเป็นจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากมีการดูแลตัวเองหลังเสริมคางตามคำแนะนำของแพทย์ หรือทาครีมบำรุงลดเลือนรอยแผลเป็นก็จะช่วยให้รอยแผลเป็นค่อย ๆ จางลงไปได้เอง

มีโอกาสเคลื่อนได้ หากไม่ระมัดระวัง หรือดูแลหลังผ่าตัดไม่เหมาะสม เช่น เคี้ยวของแข็ง ขยับบริเวณคางมาก หรือนอนตะแคงช่วงแรก ดังนั้น แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด

หลังการศัลยกรรมเสริมคาง สามารถแก้คางได้หากมีปัญหา เช่น คางยาวหรือคางสั้นไป คางเบี้ยว คางลอย หรือไม่พึงพอใจในรูปทรง

แชร์บทความนี้
Facebook
Threads
X
อ้างอิง
สอบถามเพิ่มเติม
The Art เราพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่าน

News & Events

ข่าวสารล่าสุดจากดิอาท

Imperial Room
6th Floor|

Premier Room
6th Floor|

Deluxe Room
5th Floor|

Essential Room
3rd Floor|

Recovery Room
3rd Floor|

เว็บไซต์รวมบริการจากทั้ง โรงพยาบาลและคลินิก

เว็บไซต์รวมภาพรีวิวจาก ผู้ใช้บริการจริงที่ดิอาท