การศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่เรื่องของการเพิ่มขนาดหน้าอก หรือเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับความมั่นใจ ความรู้สึกดีกับตัวเอง และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมหน้าอกถือว่าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการปรับรูปร่างให้ดูดีเหมาะสมกับตัวเอง แต่การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกนี้ก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและการดูแลจากแพทย์จนปลอดภัยดิอาทจึงจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้มากขึ้นก่อนตัดสินใจทำ
ศัลยกรรมเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) คือ การเพิ่มขนาดหรือปรับรูปทรงของหน้าอกให้ดูสวยแลดูเป็นธรรมชาติตรงกับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยการใช้ซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอก หรือการเติมไขมันตัวเอง เข้าไปใต้เนื้อเยื่อหน้าอกหรือกล้ามเนื้อหน้าอก เพื่อให้หน้าอกมีรูปทรงที่ได้สัดส่วนเหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ การศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่เพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกให้สมส่วนกับรูปร่างตัวเองเท่านั้น แต่จุดประสงค์ของการศัลยกรรมเสริมหน้าอกของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน เช่น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาหน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน หรือเติมเต็มหน้าอกหย่อนคล้อยหลังคลอดหรือหลังให้นมบุตร
สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอกนอกจากจะช่วยเพิ่มขนาดแล้ว การศัลยกรรมเสริมหน้าอกยังช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ขาดความมั่นใจในรูปร่าง และผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีด้วยกัน 3 ประเภท ซึ่งจะแบ่งตามรูปแบบของวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัด โดยแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
เป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยเทคนิคนี้จะใช้ซิลิโคนเป็นวัสดุเสริม ซึ่งจะสามารถเพิ่มขนาดหน้าอกได้ตามต้องการและปรับรูปทรงได้ละเอียด มีข้อดีที่ให้ความรู้สึกและรูปทรงที่ใกล้เคียงกับหน้าอกธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน รวมทั้งซิลิโคนยังมีความคงทนและอายุการใช้งานนาน
เติมไขมันหน้าอก เป็นเทคนิคที่จะนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาฉีดเข้าในเต้านม เพื่อปรับรูปทรงและเพิ่มขนาดหน้าอก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดเล็กน้อย และมีข้อจำกัดในส่วนของไขมันที่ฉีดไปอาจถูกดูดซึมกลับไปบางส่วน ทำให้ยากในการคาดเดาของผลลัพธ์สุดท้าย และขนาดอาจไม่ใหญ่เท่าการใช้ซิลิโคน
เป็นเทคนิคที่ผสมผสานระหว่างการใช้ซิลิโคนและไขมันตัวเองมารวมกัน โดยใส่ซิลิโคนเข้าไปก่อน แล้วฉีดไขมันรอบซิลิโคน เพื่อเติมเต็มส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ และช่วยให้ผิวหน้าอกดูสม่ำเสมอแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่เทคนิคนี้จะมีความซับซ้อนและใช้ระยะเวลาผ่าตัดนานกว่า
ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีด้วยกัน 3 ประเภท ซึ่งจะแบ่งตามรูปแบบของวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัด โดยแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
การศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่เรื่องของการเพิ่มขนาดหน้าอก แต่ยังเกี่ยวข้องกับประเภทของซิลิโคนที่ใช้สำหรับเสริมศัลยกรรมหน้าอก ซึ่งจะส่งผลต่อสัมผัส รูปทรง และความพึงพอใจในระยะยาว เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และรูปร่างอย่างเหมาะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ซิลิโคนประเภทนี้มีลักษณะเป็นเนื้อเจลเหลว มีความนิ่ม และสามารถเคลื่อนไหวได้ดีตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ทรงหน้าอกแลดูละมุนและใกล้เคียงกับหน้าอกธรรมชาติ แต่การผ่าตัดอาจมีความซับซ้อนมาก
คุณสมบัติของเจลประเภทนี้จะมีความหนืดและยืดหยุ่นสูง จึงคงรูปทรงได้ดี แม้เกิดแรงกดหรือบีบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติและคงตัว
เป็นประเภทซิลิโคนที่ภายในบรรจุน้ำเกลือทางการแพทย์ (Saline) ซึ่งจะถูกเติมเข้าไปหลังจากใส่ถุงซิลิโคนเข้าในร่างกาย ข้อดีคือหากเกิดรอยรั่วน้ำเกลือสามารถดูดซึมและขับออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ แต่การสัมผัสและรูปทรงอาจให้ความรู้สึกต่างจากซิลิโคนเจล
เป็นซิลิโคนแบบน้ำเกลือ แต่ภายในมีโครงสร้างหลายชั้นเพื่อช่วยพยุงรูปทรงหน้าอก ละช่วยให้สัมผัสโดยรวมใกล้เคียงกับซิลิโคนเจลมากขึ้น ทำให้รูปทรงหน้าอกแลดูเป็นธรรมชาติ
การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีตำแหน่งการเปิดแผลบนผิวหนังที่หลากหลาย ซึ่งการเปิดแผลจะพิจารณาตามความเหมาะสมกับสรีระและความต้องการแต่ละบุคคล รวมทั้งตามการประเมินของแพทย์ โดยตำแหน่งการเปิดแผลจะมีด้วยกัน ดังนี้
ตำแหน่งการวางซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ตำแหน่งหลัก ดังนี้
เป็นการวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อหน้าอก ใต้ต่อมน้ำนม เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกพอสมควร ได้ผลลัพธ์รูปทรงที่ชัดเจน และพักฟื้นน้อยกว่าเทคนิคใต้กล้ามเนื้อ แต่อาจมีความเสี่ยงในการมองเห็นขอบซิลิโคนและเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดได้ง่าย
ซิลิโคนจะถูกวางใต้ชั้นกล้ามเนื้อหน้าอกทั้งหมด (pectoralis major) ซึ่งการวางในตำแหน่งนี้จะทำให้รูปร่างหน้าอกหลังทำแลดูเป็นธรรมชาติ เพราะมีชั้นกล้ามเนื้อช่วยปกปิดซิลิโคน และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืด เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกน้อย แต่อาจทำให้พักฟื้นนาน และอาจมีอาการปวดในระยะเริ่มต้น รวมทั้งการยกแขน การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอกอาจลำบากในช่วงแรก
ซิลิโคนจะวางในตำแหน่งที่ผสมผสานระหว่างใต้และเหนือกล้ามเนื้อหน้าอก โดยเทคนิค Dual Plane นี้จะนำข้อดีของทั้งสองตำแหน่งมาผสานเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รูปทรงหน้าอกที่แลดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับเนื้อเยื่อรอบข้างได้ดีมากขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงในการมองเห็นขอบซิลิโคน แต่จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องอาศัยทักษะจากศัลยแพทย์ และอาจจะต้องใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น
ขนาดของซิลิโคนมีผลต่อความเปลี่ยนแปลงของคัพหน้าอกที่เห็นได้หลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับสรีระเดิมและความยืดหยุ่นของผิวหนังด้วย โดยการเพิ่มขนาดหน้าอกที่แนะนำมีดังนี้
ทั้งนี้ การเลือกขนาดซิลิโคนเสริมอกควรคำนึงถึงความสมดุลกับรูปร่าง เพื่อให้การเสริมหน้าอกออกมาแลดูสวยและดูเหมาะกับตัวเองที่สุด
ปัจจุบันมีซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่ใช้หลายแบบ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกันและเหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น
เป็นซิลิโคนเจลที่มีความยืดหยุ่นสูง ให้สัมผัสนุ่มรู้สึกแลดูเป็นธรรมชาติ คงรูปหน้าอกได้ดี รองรับทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ และช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืดด้วย
โดยซิลิโคนจะมีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้ดี ช่วยให้หน้าอกแลดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเนื้อหน้าอกน้อย ช่วยเติมเต็มทรวงอกให้แลดูสมส่วนเหมาะกับรูปร่าง โดยไม่ดูใหญ่จนเกินไป
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการศัลยกรรมเสริมหน้าอก มีหลายเรื่องที่ควรรู้เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ได้แก่
ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข และมีศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง สามารถตรวจสอบชื่อแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา
แม้ว่าซิลิโคนจะทนทานและสามารถใช้งานได้ยาวนาน แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ตรวจเช็กเป็นระยะ และอาจต้องเปลี่ยนหากเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยมีข้อควรปฏิบัติก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกแบบดมยาสลบ ดังนี้
การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอกถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ เพราะจะช่วยให้ หน้าอกเข้าทรงสวย และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้
การศัลยกรรมเสริมหน้าอกอาจเกิดผลข้างเคียงหรืออาการแทรกซ้อนได้เหมือนกับการผ่าตัดหัตถการอื่น ๆ ซึ่งการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อศัลยกรรมเสริมหน้าอก จะช่วยให้สามารถเตรียมตัวรับมือได้อย่างเหมาะสมหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ราคาศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ โดยราคาก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละสถานพยาบาล ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ชนิดของซิลิโคน, ขนาดของซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอก, เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด, ชื่อเสียงของสถานพยาบาล และโปรโมชั่นของแต่ละสถานพยาบาล ซึ่งราคาโปรโมชั่นก็อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลาที่กำหนดด้วย ทั้งนี้ ก่อนการตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ และตรวจสอบราคา หรือโปรโมชั่นของสถานพยาบาลนั้น ๆ
การตัดสินใจศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะเป็นการผ่าตัดที่มีผลต่อรูปลักษณ์และความมั่นใจในระยะยาว ดังนั้น การเลือกสถานที่ในการศัลยกรรมเสริมหน้าอกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาดังนี้
สำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับรูปทรงหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่เล็กกว่าที่ต้องการ หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกห่าง หรือทั้งสองข้างไม่เท่ากัน แล้วไม่รู้ว่าควรเลือกศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่ไหนดี ที่ The Art พร้อมดูแลและให้คำปรึกษา โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งก่อนเข้ารับการผ่าตัดแพทย์จะทำการประเมินโครงสร้างและลักษณะหน้าอกของแต่ละบุคคล พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสม ทั้งเรื่องของขนาด รูปทรงที่เหมาะกับสรีระ รวมทั้งแนะนำการเตรียมตัวก่อนและการดูแลหลังการผ่าตัด เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง
อีกทั้งที่ดิอาทของเรายังมีเทคนิคการศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่หลากหลาย และการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้รูปทรงหน้าอกออกมาแลดูสวยเข้ากับกับรูปร่าง ผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติ รวมทั้งมีการดูแลให้ปลอดภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนการศัลยกรรมเสริมหน้าอกควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกทำกับแพทย์เฉพาะทาง และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพราะสุดท้ายแล้วจุดประสงค์ของการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่เพื่อให้คนอื่นมองว่าสวยขึ้น แต่เพื่อให้เรามั่นใจและรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นนั่นเอง สำหรับท่านใดที่สนใจหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก หรือการยกกระชับหน้าอก สามารถเข้ามาปรึกษาที่ The Art เราพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่าน
ซิลิโคนสำหรับศัลยกรรมเสริมหน้าอกในปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้มีความทนทานสูง สามารถอยู่ในร่างกายได้หลายสิบปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ และไม่จำเป็นต้องถอดออกหรือแก้ไข หากไม่พบปัญหาใด ๆ แต่แนะนำให้ตรวจหน้าอกกับแพทย์เป็นประจำ หรืออย่างน้อยปีละครั้ง
การผ่าตัดแก้ไขหน้าอกมักเกิดจากปัญหา เช่น ซิลิโคนเคลื่อนที่ รูปทรงหน้าอกผิดปกติ ซิลิโคนรั่วซึม หรือซิลิโคนแตก มีการอักเสบ ติดเชื้อ มีภาวะพังผืดหดรัด หรือผู้รับบริการต้องการปรับเปลี่ยนขนาดและทรงให้เหมาะกับรูปร่างมากขึ้น
โดยทั่วไปหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ใน 3-7 วันหลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับเทคนิคและร่างกายแต่บุคคล โดยในช่วงแรกจะมีความเจ็บระบมช้ำมากกว่าปกติ แล้วหน้าอกจะเริ่มเข้าที่มากขึ้นในช่วง 1-3 เดือน และเห็นผลชัดเจนมากขึ้นหลัง 6 เดือน ทั้งนี้ การดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น
หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ เนื่องจากไม่ได้มีการตัดท่อน้ำนมออก แต่เป็นการเปิดแผลผ่าตัดใต้รักแร้หรือใต้ราวนม เพื่อใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปใต้หรือเหนือกล้ามเนื้อเต้านม ทั้งนี้ หากวางแผนมีบุตรในอนาคต แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
การศัลยกรรมเสริมหน้าอก สามารถเลือกขนาดที่ใหญ่ได้ แต่ควรพิจารณาร่วมกับสรีระของร่างกาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ และไม่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น รู้สึกแน่น หายใจไม่ออก ปวดหลัง หรือเกิดปัญหาหัวนมชาและเสี่ยงเกิดพังผืดรัดตัว